เชื่อได้เลยว่าชาวไบเกอร์มือใหม่หลายๆ คนที่เพิ่งหัดขี่มอเตอร์ไซค์ หรือฝึกขี่มอเตอร์ไซค์ นอกจากจะต้องเรียนรู้วิธีขี่รถมอเตอร์ไซค์ให้ปลอดภัยแล้ว ยังต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับและกฎจราจรต่างๆ อีกด้วย วันนี้เราจึงมีวิธีเตรียมตัวสำหรับไบเกอร์มือใหม่ที่กำลังหัดขี่มอเตอร์ไซค์มาฝากกัน จะมีวิธีการฝึกขี่มอเตอร์ไซค์อย่างไรบ้างตามไปดูได้เลย
หัดขี่มอเตอร์ไซค์ต้องรู้อะไรบ้าง?
1.อุปกรณ์ที่ใช้ในการขับขี่
เมื่ออยู่บนท้องถนนไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดขี่มอเตอร์ไซค์หรือรุ่นเก๋ามากประสบการณ์ เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ เพราะฉะนั้นก่อนสตาร์ตเครื่องออกเดินทางต้องเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์อย่างปลอดภัยให้ครบ ไม่ว่าจะเป็น หมวกกันน็อก (สำคัญมาก) เพื่อป้องกันไม่ให้ศีรษะกระแทกพื้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยเราควรเลือกซื้อหมวกกันน็อกที่พอดีกับศีรษะและควรเลือกหมวกกันน็อกแบบเต็มใบที่ได้มาตรฐานสากลรับรองคุณภาพ รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ถุงมือ เสื้อการ์ด กางเกงการ์ด รองเท้าบูท ก็ควรมีให้ครบหากต้องการความปลอดภัยขั้นสุด แต่สำคัญกว่าอุปกรณ์ป้องกันใดๆ ก็คือการขับขี่อย่างระมัดระวัง
2.ตรวจเช็กรถก่อนออกเดินทาง
เมื่ออุปกรณ์ความปลอดภัยพร้อมแล้ว รถมอเตอร์ไซค์ก็ต้องพร้อมเช่นกัน การตรวจเช็กรถมอเตอร์ไซค์ก่อนออกเดินทางจุดที่สำคัญๆ ก็คือล้อหน้าและล้อหลัง ต้องตรวจเช็กทั้งสภาพยางว่าสึกหรอหรือไม่ และลมยางที่ใช้ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสมซึ่งสามารถวัดได้โดยใช้เครื่องวัดลมยาง
นอกจากนี้ ยังควรตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่กำหนด หรือหากไม่ได้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องมานานก็ควรเปลี่ยนถ่ายให้เรียบร้อยก่อน รวมถึงตรวจเช็กการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบเบรก ทำได้ด้วยการกำเบรกหน้าและเหยียบเบรกหลังของรถมอเตอร์ไซค์ว่ายังสามารถเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพดีหรือไม่ ระบบขับเคลื่อน เช่น โซ่ในรถมอเตอร์ไซค์แบบมีเกียร์ ควรตั้งให้พอดี ไม่ตึงหรือหย่อนเกินไป รวมถึงระบบไฟสัญญาณต่างๆ ต้องอยู่ในสภาพปกติ
3.เครื่องหมายจราจร
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างปลอดภัยโดยที่ไม่ทำความเข้าใจเครื่องหมายจราจร ดังนั้นหากคุณเป็นมือใหม่หัดขี่มอเตอร์ไซค์หรือฝึกขี่มอเตอร์ไซค์ที่อยากเป็นเพื่อนร่วมทางที่น่ารัก แนะนำว่าควรศึกษาเครื่องหมายจราจรเบื้องต้นเอาไว้ โดยเครื่องหมายบนป้ายจราจร แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
-
ป้ายบังคับ (Regulatory Signs) มักจะมีพื้นสีขาว ขอบสีแดง เป็นป้ายกำหนด ต้องทำตาม เช่น ห้ามเลี้ยวขวา ห้ามแซง ห้ามเข้า หยุด ฯลฯ
-
ป้ายเตือน (Warning Signs) สังเกตง่ายๆ คือมักจะมีพื้นสีเหลือง ขอบสีดำ เป็นป้ายที่มีสัญลักษณ์แจ้งเตือนว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้า เช่น ทางโค้ง ทางแยก ทางลาดชัน ฯลฯ
-
ป้ายแนะนำ (Guide Signs) เป็นป้ายที่แนะนำการเดินทางต่างๆ เช่น ทางลัด จุดกลับรถ ป้ายบอกระยะทาง ฯลฯ
4.กฎหมายควรรู้สำหรับการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์
-
ห้ามบรรทุกของเกิน 50 กิโลกรัม และนั่งซ้อนท้ายได้เพียง 1 คนเท่านั้น
-
ห้ามใช้ความเร็วเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเขต กทม./ เมืองพัทยา/ เขตเทศบาล และนอกเขตไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่หากมีเครื่องหมายจราจรกำหนดความเร็วไว้ต้องห้ามขี่เกินอัตราความเร็วที่กำหนด
-
ก่อนเลี้ยวรถ เปลี่ยนเลน ลดความเร็ว หยุดหรือจอดรถ ต้องให้สัญญาณด้วยมือหรือแขนหรือไฟสัญญาณเป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 30 เมตร
-
เมื่อจะเลี้ยวรถหรือเปลี่ยนเลน ต้องใช้ไฟสัญญาณกะพริบที่ติดอยู่ท้ายรถ ไปในทิศทางที่จะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน
-
เมื่อจะให้รถคันอื่นแซงหรือผ่านขึ้นหน้า ต้องให้ไฟสัญญาณกะพริบที่ติดอยู่ท้ายรถหรือทางด้านซ้ายของรถ
-
ต้องระมัดระวังไม่ให้รถชนหรือโดนคนเดินเท้าไม่ว่าจะอยู่ ณ ส่วนใดของทาง และต้องให้สัญญาณเตือนคนเดินเท้าให้รู้ตัวเมื่อจําเป็น
-
ต้องขับขี่รถในเลนซ้ายและต้องไม่ล้ำกึ่งกลางของเลน เว้นแต่เลนซ้ายมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร หรือเจ้าพนักงานจราจรกําหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียว หรือเลนกว้างไม่ถึง 6 เมตร
5.การเข้าอบรม เรียนรู้วิธีขี่รถมอเตอร์ไซค์ หากคุณเป็นมือใหม่หัดขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่ต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง การเข้ารับการอบรมกับผู้เชี่ยวชาญก็เป็นวิธีที่ดี โดยยามาฮ่ามีสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (Yamaha Riding Academy) หรือ YRA เพื่อเสริมสร้างความรู้ ทักษะการขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกประเภทอย่างถูกวิธีและปลอดภัย เป็นสถาบันสอนขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม และมีหลักสูตรขับขี่รถจักรยานยนต์สำหรับมือใหม่โดยเฉพาะด้วย
ส่วนหากใครเป็นมือใหม่ที่สนใจมาฝึกกับสถาบันอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (Yamaha Riding Academy) หรือ YRA สามารถติดตามได้ที่เพจ ยามาฮ่า เชียงใหม่ เจริญมอเตอร์ (คลิกได้เลยค่ะ) เพื่อติดตามข่าวสารและกิจกรรมดี ๆ ตลอดทั้งปีได้เลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก เวปไซค์ของยามาฮ่าด้วยนะคะ
